หนังตลก ฮา

หนังตลก ฮา

หนังตลก ฮา เรื่องย่อ สุดเขต สเลดเป็ด Loser Love

หนังตลก ฮา เรื่องราวของ สุดเขต (อารักขา อมรศุภศรี) ชายหนุ่มเซอร์ที่มีแนวความคิดเป็นของตนเองซึ่งมีความต้องการอยากเป็นนักร้อง เขาได้ไปออดิชั่นที่ค่ายก๊อปปี้ แล้วก็ได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่งชื่อ มะยม (อริย์กันตา มหาพฤกษ์วงศ์) ซึ่งเขาถูกใจตั้งแต่ตอนแรก ท้ายที่สุดสุดเขตจะได้เป็นนักร้องอย่างที่ตั้งดวงใจหรือเปล่า จะต้องติดตาม “สุดเขต สเลดเป็ด”ต้อนรับการกลับมาของแอนิเมชั่นยิ่งใหญ่แห่งปีที่คนทั้งโลกต่างคอยระยะเวลาเป็นเวลานานกว่า 6 ปี กับภาพยนตร์ภาคต่อ Frozen 2 : เสี่ยงอันตรายปริศนาราชินีหิมะ เกิดเรื่องราวเกี่ยวกับในอาณาจักรที่เอเรนเดลล์

ความลับเบื้องหลังของอดีตกาล เสียงที่กำลังเรียกหา และการผจญภัยของเอลซ่าที่เริ่มเดินทาง เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับพลังดีเลิศของตัวเอง โดยความยาวของหนังอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 43 นาที กำหนดฉาย 21 เดือนพฤศจิกายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์ ปล. หนังมีฉากหลัง End Credit 1 ตัวภาพยนตร์เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดที่เกิดขึ้นต่อจาก Frozen ภาคที่แล้วเกี่ยวกับคำแช่งของราชินีหิมะ โดยเรื่องราวในภาคนี้  หนังตลกฮา ได้เล่าถึงความลับในตำนานของอาณาจักร เอเรนเดลล์ กับ นอร์ธัลดรา รวมถึงการไขปัญหาคำตอบของพลังยอดเยี่ยมของเอลซ่าในป่าจำเป็นต้องมนตร์

ความลับในสิ่งที่เอลซ่าได้ยินอาจเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง ซึ่งเอลซ่าต้องไขปัญหานั้น เพื่อให้เมืองอเรนเดลล์กลับมาธรรมดาสุขอย่างเดิมเนื้อเรื่องยังคงแฝงความรักของญาติระหว่างเอลซ่ารวมทั้งอันทุ่งนาได้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็ทุกนักแสดงมีบทบาทที่เด่นขึ้น แจ่มชัดขึ้น ภาพงาม เพลงไพเราะ แนวทางการสร้างดีขึ้นกว่าภาคที่แล้วมาก ตัวละครมีมิติ สวยขึ้นหล่อขึ้น สวยขึ้นทุกตัว ในส่วนของเพลงประกอบภาพยนตร์นั้น

น่าจะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเรื่องได้เลย เพราะพวกเราจะได้ฟังกันแบบจุใจอย่างแน่แท้ ที่มีมาแทบตลอดทั้งเรื่อง และก็บอกได้เลยว่าแต่ว่าละเพลง “โคตรด้วยเหตุว่า” โดยเฉพาะเพลง “into the unknow” ที่บ่งบอกได้ถึงอารมณ์ของตัวนักแสดงเลยทีเดียว โดยภาพยนตร์ประเด็นนี้ ทาง Frozen 2 ได้ปลดปล่อยออกมาถึง 11 เพลง ร่วมกัน

 

Upside, Down เป็นช่วงเวลาหนึ่งปีของความเกี่ยวเนื่องของคู่ครอง

คู่หนึ่งที่ได้เปิดบาร์ด้วยกัน ซึ่งในหนึ่งปีนี้มันก็มีทั้งความสวยสดงดงามที่ก่อนตัวขึ้นมา เเละการล่มสลายของหลายแบบเช่นกัน คอนเซ็ปต์เดิมทีเลยเป็นพวกเราต้องการจะเล่าถึงชนชั้นกลาง, gen-y, เเละจ.กรุงเทพฯ โดยเราได้เล่าผ่านความเชื่อมโยงของคู่ครองคู่หนึ่ง

Upside, Down อาจเป็นหนังรักหัวข้อนี้ได้ดูพีทเเละเจเป็นคู่รักคู่หนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ขยายเรื่องราว LGBTQ เพราะเหตุว่าเราเล่าเรื่องนี้ในสิ่งที่พวกเราเห็นในสังคมที่พวกเราอยู่ว่าเกย์นั้นถูกเห็นด้วยเเละก็เป็นส่วนหนึ่งที่แจ่มกระจ่างของเหล่าชนชั้นกลาง gen-y รอบตัวของพวกเราเอง ต่อนี้ไปความเป็น Bangkok Middleclass Millennial นั้นตามมาด้วยปริศนามากมายก่ายกอง พวกเรานั้นเป็นตัวเเทนของค่าอะไรรึเปล่า กรุงเทพฯ สำหรับพวกเรานั้นคืออะไร เเต่เรื่องที่มีผลมากมายๆกับ project นี้คือเรื่องความฉาบฉวย

พวกเราชอบโดน generation อื่นหมายหน้าด่าทอด้วยคำนี้ เเต่พวกเรากำลังยกย่องความฉาบฉวยนี้ ความสะเพร่าของทั้งความเกี่ยวพัน เเฟชั่น ศิลป์ เรื่องทุกเรื่องที่ผู้คนจะสนใจได้ ทุกสิ่งถูกขับอย่างเร็วเนื่องจากว่า gen-y ต่างมีอภิสิทธิ์ในการตามหาความสำราญ ซึ่งพวกเรามองว่ามันมากกว่าช่วงอื่น พวกเราเลยหวังว่า Upside, Down จะเป็นหนังที่จะสามารถเล่าวัฒนธรรมของพวกเราเเละผู้คนรอบกายในยุคสมัยนี้ได้ หนังตลก ฮา ทุกๆวันนี้ยังขาดเงินทุนสำหรับเพื่อการทำ post สถานที่สำหรับในการฉาย เเละเราเองก็อยากทำให้มันเป็นหนังยาวถ้าเกิดเป็นไปได้ ท่านใดมีคำเเนะนำ พวกเรารอท่านอยู่ตลอด

ถ้า A ไม่เป็นสับเซตของ B กำกับโดย ชุติมันต์ คงถิ่นฐาน

หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับความยินดี เด็กผู้ชายม.4 คนหนึ่ง ที่จู่ๆก็เลือกที่จะไม่เชื่อในศาสนาขึ้นมา โดยที่เขาไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าจะเกิดผลกระทบอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่เขาเลือกไม่เชื่อในศาสนาแล้ว[br]“ไอเดียเริ่มที่คิดจะทำหนังเรื่องนี้คือ พวกเราต้องการจะทำหนังที่มีข้อความสำคัญเกี่ยวกับคนไม่มีศาสนา เพราะพวกเราก็เป็นคนนึงที่มิได้นับถือศาสนา พวกเรามีความรู้สึกว่าประเด็นนี้มันน่าดึงดูดดีรวมทั้งมีความคิดว่ายังไม่มีใครทำ พวกเราเลยเลือกที่จะพรีเซ็นท์ปัญหาที่เกิดสังกัดคนไม่มีศาสนาในสังคมไทยปัจจุบัน ทั้งการเช็ดกคนส่วนมากคิดว่าเป็นคนไม่ดี

ไร้ศีลธรรม หรือการถูกคนแก่บังคับให้เข้าร่วมพิธีกรรมทางพุทธศาสนาโดยไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้“แม้กระนั้นในอีกมุมหนึ่ง เราก็ปรารถนาที่จะสะท้อนถึงปัญหาของศาสนาพุทธในประเทศไทยเหมือนกัน เช่น ปัญหาพระภิกษุที่ทำผิดระเบียบหรือทำผิดศีลกันเป็นประจำปัญหาที่พุทธศาสนิกชนส่วนมากยังไม่รู้เรื่องถึงแก่นของธรรมะอย่างแท้จริง นำมาซึ่งความไม่ถูกกันต่างๆมากมายก่ายกอง รวมถึงการถูกบังคับให้เชื่อในศาสนาตามบิดามารดาตั้งแต่กำเนิด

โดยไม่มีสิทธิ์ได้เลือกว่าจะนับถือศาสนาหรือเปล่าอยากให้คนประเทศไทยที่ยังมีทัศนคติด้านลบเกี่ยวกับคนไม่มีศาสนามาดูหนังประเด็นนี้ เนื่องจากว่าในความเป็นจริงแล้วคนไม่มีศาสนาก็มิได้เป็นคนชั่วช้าหรือเป็นคนไม่มีศีลธรรมเสมอไป หนังตลก ฮา  พวกเขาเหล่านั้นแค่เพียงอาจจะไม่ต้องการมีศาสนาเป็นที่พึ่งหรือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือพวกเขาอาจจะมีแบบอย่างหรือหนทางในการดำเนินชีวิตที่ดีได้โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งศาสนาและไม่สร้างความลำบากให้คนใด ดังนี้ก็ต้องการจะฝากให้ผู้ที่นับถือศาสนาหลายท่านได้เข้าใจว่า

อันที่จริงแล้วพวกเขาเป็นแค่คนไม่มีศาสนา พวกเขาไม่ใช่คนไร้จริยธรรม”รวมหนังน้าค่อม เชื้อเชิญชื่นเขาเป็น…ตลกอัจฉริยะ” เป็นนิยายที่น่าจะนึกถึงดาราตลกผู้วายชนม์ “ค่อม เชิญชวนชื่น” คอมเมเดี้ยนผู้ที่เป็นที่รักของคนผู้คนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศ ต่อสู้สู้ชีวิตมาตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์ สู่การเป็นดาราตลกแถวหน้าของแวดวงที่เต็มไปด้วยคนยกย่องรักเชื่อถือ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า น้าค่อม ก็เทียบเป็นบุคคลในเครือเครือญาติที่เคยชินในชีวิตประจำวันของชาวไทยเพื่อเป็นการระลึกและก็นึกถึงตลกค้างฟ้าที่จากไป ในวันนี้

 

Movie.TrueID ได้ขอเก็บรวบรวมผลงานอันน่าจดจำของน้าค่อม

กับบรรดาภาพยนตร์ตลกที่เคยสร้างเสียงหัวเราะตลกขบขันให้กับคนประเทศไทยมาตลอดทศวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยที่คลังหนังของทรูไอดี มีหนังที่น้าค่อมร่วมแสดงอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง แล้วก็จะมีเพิ่มเข้ามาอีกเรื่อยแต่ละเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่สร้างความประทับใจมาแล้ว โดยให้ชาวทรูไอดีชมผลงานของน้า

เด็กสองคนได้ไปเห็นขบวนรถบั้งไฟยิ่งใหญ่ในตัวอำเภอ เลยต้องการจะทำรถแห่บั้งไฟของตัวเองไปแห่ในคุ้มขบวนหมู่บ้าน ดูเป็นเรื่องที่ไม่ยากๆธรรมดาๆเป็นหนังบรรยากาศกลิ่นอายต่างจังหวัดที่มีพื้นข้างหลังเป็นงานขนบธรรมเนียม แม้กระนั้นมันเป็นหนังเกี่ยวกับจารีตประเพณีบุญบั้งไฟในแบบที่จะเข้าไปมองดูเนื้อหายิบย่อยมากมายเป็นพิเศษ ผูกกับเรื่องราวของการก้าวพ้นวัยของเด็ก เรื่องสัญลักษณ์ของจารีตและก็การขอฝน

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีกลาย ขณะที่หมู่บ้านจัดบุญบั้งไฟทีแรกเป็นงานเล็กๆแม้กระนั้นพลังและก็ความตื่นเต้นมีล้นหลาม ทำให้พวกเราในตอนเด็กต้องการทำรถบั้งไฟสวยๆราวกับขบวนแห่ในอำเภอ แม้กระนั้นบุญบั้งไฟมันก็ผ่านไปแล้ว เรากับเพื่อนฝูงๆรวมทั้งพี่น้องๆตอนเด็กเลยทำเป็นรถยนต์แห่เทียนพรรษาใส่รถเข็นเล็กๆแทน แห่รอบหมู่บ้านเสียด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานมากๆวิธีการทำหนังหัวข้อนี้ เลยเป็นเหมือนการกลับไปทำความฝันวัยเด็กให้เสร็จ ซึ่งก็คือทำรถยนต์บั้งไฟสวยๆใส่รถเข็นแห่โชว์ราษฎร (555)

“ประเด็นนี้ราวกับสารคดีส่วนตัวนะ มันเป็นเรื่องความตรึงใจเมื่อ 10 กว่าปีก่อน นักแสดงดูเหมือนจะทั้งหมดยกเว้นตัวเอกทั้งสองเล่นเป็นตัวเองเมื่อ 10 ปีกลายทั้งปวง ทั้งแม่(ตัวเอง) อาจารย์ถนอม คุณลุงปีนต้นไม้ หรือคนทั้งหมู่บ้าน เสมือนเป็นหนังบันทึกประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านว่า เราเป็นแบบนี้นะ มีจารีตประเพณีอย่างนี้ มีความคิดแบบงี้ มีภาษาแบบนี้ มีชีวิตความเป็นอยู่แบบนี้ พวกเราอยากให้ผู้ชมหนังได้เห็นชาวไทยอีกโลกหนึ่งที่ยังไม่คุ้นชิน ไม่เคยมองเห็นมาก่อน พวกเราคิดว่าตอนไปถ่ายทำเราได้เห็นสปิริตของมวลชน พลังศรัทธาของผู้คน ซึ่งหวังว่ามันถูกถ่ายทอดผ่านหนังประเด็นนี้ไปให้แก่ผู้ชมเยอะๆโมโนแมกซ์ ส่ง “จอห์น วิค” สองภาคถล่มหน้าจอโดย John Wick จอห์น วิค ภาคแรก จะเริ่มต้นกับเรื่องราวของนักฆ่ามือ 1 ของแวดวง จอห์น วิค

ผู้ครบเครื่องไปด้วยความโหดร้ายและก็เก่งกล้า ที่ขอตัดสินใจล้างมือจากการเป็นนักฆ่า เพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่อย่างสงบเงียบภายหลังภรรยาเสียชีวิต แต่ว่าการหันหลังให้โลกของมือสังหารสำหรับเขาบางทีอาจไม่ใช้ว่าจะง่าย เมื่อต้องถูกหมายหัวจากหัวหน้ากลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายที่ป่าเถื่อนที่สุดในนิวยอร์กอย่างไม่ลดละ จอห์น วิค จึงจะต้องปลุกสัญชาตญาณนักฆ่าในตัวขึ้นมาอีกที

พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดรวมทั้งล้างแค้นในแบบหมัดแลกหมัด ลูกกระสุนแลกลูกกระสุนปืน ถึงคู่ต่อสู้ตรงหน้าจะเป็นอดีตเพื่อนฝูงนักฆ่าที่เขาเคยไว้ใจที่สุดก็ตามแล้วหลังจากนั้นบู๊กึกก้องหน้าจอต่อเนื่องในภาคที่ 2 กับการเดินทางครั้งใหม่ของ จอห์น วิค ที่ถูกสมัยก่อนเพื่อนร่วมงานบีบให้กลับสู่เส้นทางนักฆ่า ถึงแม้เขาจะวางมือไปแล้ว โดยเป้าหมายของเขาคือการหยุดยั้งองค์กรสังหารระดับนานาชาติอันลึกลับ และก็ด้วยคำสัญญาบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้รวมทั้งด้วยความผูกพันธ์ดุจลูกพี่ลูกน้องต่างเชื้อสาย จอห์น วิค ให้คำมั่นว่าจะช่วย ทำให้เขาจำเป็นต้องเดินทางทางไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อพบเจอกับเหล่ามือสังหารที่อันตรายที่สุดกรุ๊ปหนึ่งของโลก

ไฟเหลือง ควบคุมโดย ปรีชญญ์ รัตนดิลกชัย

คนคนหนึ่งที่มี passion มีความรักในสิ่งที่ตัวเราเองทำ รวมทั้งมีความทะยานอยากที่จะทำให้ตัวเองไปสู่ระดับประเทศให้ได้ แม้กระนั้นเมื่อทำไปเรื่อยซ้อมไปเรื่อยๆความสนุกสนานร่าเริงที่เคยมีก็เริ่มหายไป แปลงเป็นความตึงเครียด คิดถึงแม้กระนั้นเป้าหมาย เริ่มมีการตั้งปัญหากับตนเองว่าเรายังชอบมันอยู่ใช่หรือไม่ หรือน่าจะเลิกดี[br]“ในระหว่างที่เขียนบทรวมทั้งทำหนังประเด็นนี้ก็แอบมีความรู้สึกแบบตัวละครในเรื่อง เป็นโปรเจ็กต์ที่ประสบปัญหาจำนวนมาก และเกือบจะล่มไปแล้วบ่อยครั้ง ก็เลยเอาอารมณ์ในตอนที่ทำหนังมาทำเป็นหนัง อันที่จริงแล้วตัวผมเองยังไม่กล้าดูหนังเต็มอีกทั้งเรื่องเลยด้วย ค่อนจะอายนะครับ (555)[br]“ถูกใจอะไรก็ทำ อาจมีอ่อนแรงหรือท้อบ้าง แม้กระนั้นถ้าเกิดสุดท้ายค้นพบแล้วว่าไม่ชอบจริงๆก็หยุดขอรับ”สู้รบ (2545)เล่นบทเป็น จุก

เบี้ยวสกุลหลังจากร่วมฟันฝ่ามรสุมอันแสนสาหัส กินลูกตะกั่ว คั่วดินปืน คลุกข้าวต่างน้ำมาด้วยกัน หลายต่อบ่อยมาก และก็ได้โอกาสที่จะสละเลือดเนื้อ ไปกับภารกิจรบ จนถึงเกือบจะต้องพลีชีพเพื่อชาติมาก็หลายครา แต่ว่าไม่มีภารกิจครั้งไหน จะหล่อหลอมเหล่าผองเพื่อนชายไทย จนถึงขั้นผูกจิตผูกใจผู้ชาย 7 คน ที่ไม่เหมือนกันด้วยวุฒิภาวะ คุณลักษณะ หรือที่เรียกว่ารูปร่างหน้าตา ไปจนกระทั่ง 2 วุฒิ โน่นคือคุณวุฒิแล้วก็วัยวุฒิ ให้ร่วมสมัครสมานสมัครสมาน เกี่ยวก้อยสาบาน กระทั่งแปลงเป็นพี่น้อง ที่มิได้คลานออกมาจากท้องพ่อท้องแม่เดียวกันได้ เท่ากับการที่พวกเขาเป็นผู้แทนผืนแผ่นดินไทย

ออกร่วมรบเคียงข้างคีบจะแร้กันและกัน ต่อสู้กับเหล่าอริผองภัย ที่มารุกรานชาติไทยในการสู้รบเวียดนามหรอกหลังจากที่เสร็จสมบูรณ์ภารกิจรบเพื่อชาติ เหล่าผองเพื่อนอีกทั้ง 7 หรือที่รู้จักกันดีในนามของ 7 รบเป็นนายสิบดับ จำเปาะ (ดงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง),

หมัด เชิงมวย (เท่ง เถิดเทิง), ตังกวย แซ่หลบ (ทศพล ศิริวิวัฒน์), ไฟ ก้อนเมฆกระทั่งถึงตุ์ (อัมรินทร์ นิติพน), ดั่น มหิทธา (พิเศก อินทรครรชิต), กล้า ตะลุมพุก (แช่ม แช่มรัมย์), จุก เบี้ยวสกุล (ค่อม เชิญชวนชื่น) ก็ต่างแยกย้ายกันไปตามดินแดนถิ่นแผ่นดินแม่ ที่ต่างเกิดกันไป กลับไปพบเหล่าผู้คนที่อยู่ด้านหลัง ที่คอยเป็นอย่างยิ่งดวงใจ รอคอยวีรบุรุษในใจของพวกเขามาชั่วชีวิต บ้างก็ได้ดิบก้าวหน้า บ้างก็ยังคงวนเวียนไป ตามวัฏจักรที่ความดิ้นรนต่อสู้ เพียงแต่ครานี้ มิได้รบราฆ่าฟันกับผู้คนฝรั่ง

ที่เคยมารุกรานอีกต่อไป แต่เป็นการดิ้นรนต่อสู้กับอะไรบางอย่าง ที่สถิตย์อยู่ภายในจิตใจของตัวเองต่างหาก[br]Our Home Says All About Us / ดูแลโดย พสิษฐ์ ตันเดชานุรัตน์[br]“หนังเอ่ยถึงหัวข้อการกลับไปยังบ้านของลูกชาย เอาจริงๆเวลาจำเป็นต้องเขียนเรื่องย่อหรือคนไหนกันแน่ถามหาหนังก็คิดอะไรไม่ออกนอกเหนือจากประโยคเท่านี้ตลอด (555)

ผมเป็นคนเขียนบทไม่เก่ง ปกติก็ไม่ก็ค่อยได้ทำดูแลอะไรเท่าใด เนื่องจากว่าโดยปกติจะทำดูแลภาพมากกว่า ถ้ามีก็จะเป็นงานสารคดีที่จะทำกับจิรัด ต่อนี้ไปพอเพียงจะต้องทำทีสิส อย่างเดียวที่จำได้ก็เป็นแค่เรื่องเกี่ยวกับที่บ้าน  หนังตลก ฮา ด้วยเหตุว่าเป็นอะไรที่ใกล้ตัว เป็นสิ่งที่พวกเราได้เห็นได้ซึมมาตลอด จวบจนกระทั่งเข้ามหาลัยที่เพียงพอเรามาเรียนมาอยู่หอก็ห่างกับที่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ นานๆครั้งที่ผมกลับไปอยู่บ้าน จะรู้สึกกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาสัมผัสมากยิ่งกว่าเดิมจนกระทั่งพวกเราแทบจะไม่ได้จำต้องเอาตัวเราไปพากเพียรพิจารณาเลยภายหลังได้ทำหนังเรื่องนี้ก็รู้สึกตัวเองได้ปลดล็อคอะไรหลายๆอย่าง แต่พอภายหลังจากได้คุยกับคนที่ได้ดูหนัง ได้แลกมุมมอง ได้ฟังความรู้สึกจากเขา ทำให้ผมได้ทำความเข้าใจกับตนเองเพิ่มอีกหลายๆอย่างที่ตัวผมคนเดียวคงจะพาตนเองมาทำความเข้าใจอะไรแบบงี้มิได้ ซึ่งรู้สึกว่าเป็นอะไรที่พิเศษมาก

/